ตลาดทองคำในปี พ.ศ. 2568 มีแนวโน้มที่หลากหลายตามการวิเคราะห์จากสถาบันการเงินและผู้เชี่ยวชาญต่าง ๆ ดังนี้:
แนวโน้มการเพิ่มขึ้นของราคาทองคำ:
Goldman Sachs ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาทองคำสิ้นปี 2568 จาก $3,100 เป็น $3,300 ต่อออนซ์ โดยให้เหตุผลว่ามีการไหลเข้าของกองทุน ETF ทองคำมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ และความต้องการทองคำจากธนาคารกลาง โดยเฉพาะในเอเชีย ยังคงแข็งแกร่ง
Financial Times รายงานว่านักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีทคาดการณ์ว่าราคาทองคำจะเพิ่มขึ้นประมาณ 7% ในปี 2568 โดยได้รับแรงหนุนจากการซื้อทองคำของธนาคารกลางทั่วโลกที่ต้องการกระจายความเสี่ยงจากดอลลาร์สหรัฐ
ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำ:
ความต้องการจากธนาคารกลาง: ธนาคารกลางหลายแห่ง โดยเฉพาะในเอเชีย ได้เพิ่มการซื้อทองคำเพื่อกระจายความเสี่ยงและเสริมสร้างความมั่นคงของทุนสำรองระหว่างประเทศ
นโยบายการเงินของสหรัฐฯ: การปรับลดอัตราดอกเบี้ยโดยธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ทำให้ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจมากขึ้น เนื่องจากต้นทุนโอกาสในการถือครองทองคำลดลง
ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมือง: ความตึงเครียดทางการค้าและความไม่แน่นอนทางการเมืองในระดับโลก ทำให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
ความเสี่ยงและการคาดการณ์การปรับฐานของราคา:
อย่างไรก็ตาม มีนักวิเคราะห์บางส่วนที่เตือนถึงความเป็นไปได้ที่ราคาทองคำอาจปรับตัวลดลงในระยะยาว เนื่องจาก:
การเพิ่มขึ้นของอุปทาน: ราคาทองคำที่สูงกระตุ้นให้มีการผลิตทองคำมากขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การล้นตลาดและกดดันราคาลง
ความต้องการที่ลดลง: หากธนาคารกลางและนักลงทุนลดการซื้อทองคำ หรือหันไปลงทุนในสินทรัพย์อื่น ๆ ราคาทองคำอาจได้รับผลกระทบ
โดยสรุป ตลาดทองคำในปี 2568 มีแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่อง แต่ยังคงมีความเสี่ยงที่ต้องพิจารณา นักลงทุนควรติดตามปัจจัยทางเศรษฐกิจและการเมืองอย่างใกล้ชิด เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนที่เหมาะสม